นบีมูซาตอน ข้ามทะเลแดงและรับวะฮี

ท่านนะบีมูซาขึ้นไปรับคัมภีร์เตารอด

หลังจากข้ามผ่านทะเลแดงมาแล้ว นะบีมูซาและกลุ่มชนของท่านเดินทางต่อไปปาเลสไตน์ แต่ในระหว่างนั้นเอง อัลเลาะฮ์ทรงมีรับสั่งแก่นะบีมูซา ให้ท่านพร้อมกับกลุ่มชนของท่านไปยังภูเขาฏูร ทรงมีประสงค์ที่จะประทานคัมภีร์เตารอตฺให้แก่ท่านที่นั่น เพื่อเป็นบทบัญญัติให้ท่านและกลุ่มชนของท่านยึดถือปฏิบัติ

ท่านนะบีต้องไปอยู่ที่ภูเขาฏูรเป็นเวลาสามสิบคืน เพื่อรับคัมภีร์เตารอตฺ   ก่อนจะมาท่านได้บอกกลุ่มชนของท่านว่าท่านจะอยู่ที่ภูเขาฏูรสามสิบคืน ซึ่งในระหว่างนั้นท่านถือศีลอด ด้วยหวังความพอพระทัยจากอัลเลาะฮ์ตะอาลา แต่การถือศีลอดนั้นทำให้ท่านมีกลิ่นปาก ท่านจึงตัดสินใจละศีลอด เพื่อให้กลิ่นปากหมดไป อัลเลาะฮ์ทรงตำหนิท่านว่า “เหตุใดเจ้าจึงละศีลอด” ท่านตอบว่า “ข้าพระองค์มีกลิ่นปาก” พระองค์ทรงตรัสว่า “เจ้าไม่รู้หรือว่า แท้จริงกลิ่นปากของผู้ถือศีลอด ณ ที่ข้าแล้ว หอมยิ่งกว่ากลิ่นน้ำหอมเสียอีก” นะบีมูซาจึงถือศีลอดอีกสิบวัน แล้วอัลเลาะฮ์ก็ทรงเพิ่มจากสามสิบคืนที่ให้ท่านอยู่ที่ภูเขาฏูรเป็นสี่สิบคืน เพิ่มมาสิบคืน ก่อนจากกลุ่มชนของท่านมา ท่านได้ฝากฝังนะบีฮารูนพี่ชายของท่านให้เป็นผู้ดูแล ปกครองกลุ่มชนบนีอิสรออีลในช่วงที่ท่านไม่อยู่

وَوَاعَدْنَا مُوسَى ثَلاثِينَ لَيْلَةً وَأَتْمَمْنَاهَا بِعَشْرٍ فَتَمَّ مِيقَاتُ رَبِّهِ أَرْبَعِينَ لَيْلَةً وَقَالَ مُوسَى لأَخِيهِ هَارُونَ اخْلُفْنِي فِي قَوْمِي وَأَصْلِحْ وَلاَ تَتَّبِعْ سَبِيلَ الْمُفْسِدِينَ

ความว่า : “และเราได้สัญญาแก่มูซาสามสิบคืนและเราได้ให้มันครบอีกสิบ ดังนั้นกำหนดเวลาแห่งพระเจ้าของเราจึงครบสี่สิบคืน และมูซาได้กล่าวแก่ฮารูนพี่ชายของเขาว่า จงทำหน้าที่แทนฉันในหมู่ชนของฉัน และจงปรับปรุงแก้ไข และจงอย่าปฏิบัติตามทางของผู้ก่อความเสียหาย”(อะรอฟ 142)

ในขณะที่ท่านนะบีมูซาขึ้นไปรับวะฮี อัลเลาะฮ์ทรงตรัสกับนบีมูซาโดยตรง ไม่มีสื่อกลางและไม่ใช่เพียงครั้งเดียว ด้วยเหตุนี้ท่านจึงถูกเรียกว่า ‘กะลีมุลเลาะฮ์’(ผู้พูดกับอัลเลาะฮ์)

แต่นะบีมูซาต้องการที่จะเห็นพระองค์ด้วย ท่านจึงขอต่ออัลลอฮ์ ที่จะเห็นพระองค์ แต่อัลเลาะฮ์ทรงปฏิเสธที่จะให้ท่านเห็นพระองค์ แต่อัลเลาะฮ์ทรงรับสั่งให้ท่านมองไปที่ภูเขา  ดังที่พระองค์ตรัสว่า

 

 

…وَلَكِنِ انظُرْ إِلَى الْجَبَلِ فَإِنِ اسْتَقَرَّ مَكَانَهُ فَسَوْفَ تَرَانِي فَلَمَّا تَجَلَّى رَبُّهُ لِلْجَبَلِ جَعَلَهُ دَكًّا…

ความว่า : แต่ทว่าเจ้าจงมองดูภูเขานั้นเถิด ถ้าหากมันมั่นอยู่ ณ ที่ของมัน เจ้าก็จะเห็นข้า ครั้นเมื่อพระเจ้าของเขาได้ประจักษ์ที่ภูเขานั้น ก็ทำให้มันทลายตัวลงอย่างราบเรียบ…   (อะอฺรอฟ : 143)

ท่านอิบนุอับบาสกล่าวว่า “วัลลอฮฺ ไม่ปรากฏจากพระองค์ นอกจากเพียงเท่าปลายนิ้วนาง…” และเพียงเท่านั้นเอง ภูเขาใหญ่ตรงหน้านบีมูซาลูกนั้นก็ทลายตัวสิโรราบต่อความยิ่งใหญ่แห่งรัศมีของพระองค์ กลายเป็นฝุ่นดินในทันที ความตระการตาที่เกินกว่ามนุษย์จะรับได้ นะบีมูซาล้มลงหมดสติ และเมื่อฟื้นขึ้นท่านก็ขออภัยต่อพระองค์ ดังกล่าวนี้ถูกตรัสไว้ในอายะห์เดียวกัน

وَخَرَّ مُوسَى صَعِقًا فَلَمَّا أَفَاقَ قَالَ سُبْحَانَكَ تُبْتُ إِلَيْكَ وَأَنَاْ أَوَّلُ الْمُؤْمِنِينَ…

ความว่า : และมูซาก็ล้มลงในสภาพหมดสติ ครั้นเมื่อเขาฟื้นขึ้น เขาก็กล่าวว่ามหาบริสุทธิ์พระองค์ท่าน ข้าพระองค์ขอลุแก่โทษต่อพระองค์ และข้าพระองค์นั้นคือคนแรกในหมู่ผู้ศรัทธาทั้งหลาย”

อัลเลาะฮ์ทรงยกเกียรติของนบีมูซาไว้เหนือทุกคนในสมัยของท่าน ด้วยการเลือกท่านเป็นร่อซูล แล้วพระองค์ก็ทรงประทานคัมภีร์เตารอตฺให้แก่นบีมูซา ซึ่งเขียนบนแผ่นหินจารึก

قَالَ يَا مُوسَى إِنِّي اصْطَفَيْتُكَ عَلَى النَّاسِ بِرِسَالاتِي وَبِكَلامِي فَخُذْ مَا آتَيْتُكَ وَكُن مِّنَ الشَّاكِرِينَ

ความว่า : “พระองค์ตรัสว่า โอ้มูซา! แท้จริงข้าได้เลือกเจ้าให้เหนือกว่ามนุษย์ทั้งหลาย เนื่องด้วยบรรดาสารของข้า และด้วยถ้อยคำของข้า ดังนั้นจงยึดถือสิ่งที่ข้าได้ให้แก่เจ้า และจงอยู่ในหมู่ผู้ขอบคุณ”

وَكَتَبْنَا لَهُ فِي الأَلْوَاحِ مِن كُلِّ شَيْءٍ مَّوْعِظَةً وَتَفْصِيلاً لِّكُلِّ شَيْءٍ فَخُذْهَا بِقُوَّةٍ وَأْمُرْ قَوْمَكَ يَأْخُذُواْ بِأَحْسَنِهَا سَأُرِيكُمْ دَارَ الْفَاسِقِينَ

ความว่า : “และเราได้บันทึกคำตักเตือนจากทุกสิ่งและการแจกแจงในทุกอย่างไว้ให้แก่เขาในบรรดาแผ่นจารึก ดังนั้นเจ้าจงยึดถือมันไว้ด้วยความเข้มแข็ง และจงใช้พวกพ้องของเจ้าเถิด พวกเขาก็จะยึดถือสิ่งที่ดีที่สุดของมัน (ปฏิบัตเท่าที่สามารถ) ข้าจะให้พวกเจ้าได้เห็นที่อยู่ของผู้ละเมิดทั้งหลาย”

(อัล-อะอฺรอฟ 144-145)

Leave a Reply